ประวัติโรงเรียน บ้านป่าผาง
| |||
|
นาทีนี้ วงการกีฬาไทยหลายคนคงจับตามอง "น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์" เจ้าของดีกรีแชมป์โลก 1 สมัย เป็นจุดเดียว หลังจากสร้างผลงานหักปากกาเซียนแบดมินตันทั่วโลกมาแล้วนับไม่ถ้วน ว่าแล้วเราไปทำความรู้จัก น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ กันแบบเต็ม ๆ เลย
น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2538 เป็นคนร้อยเอ็ดโดยกำเนิด โดย น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ เป็นลูกสาวของคุณพ่อวินัสชัย อินทนนท์ และคุณแม่คำผัน สุวรรณศาลา ปัจจุบัน น้องเมย์ รัชนก สังกัดโรงเรียนกีฬาแบดมินตันบ้านทองหยอด
เส้นทางสู้กีฬาแบดมินตันของน้องเมย์ รัชนก เริ่มต้นมาตั้งแต่วัยเพียง 5 ขวบ และเมื่ออายุ 7 ขวบ น้องเมย์ ก็ได้ลงแข่งขันแบดมินตันไปครั้งแรก แม้จะแพ้บ้าง ชนะบ้าง แต่น้องเมย์ก็ฝึกฝนเรื่อยมา จนมาคว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรกในการแข่งขัน "อุดรธานีโอเพ่น" และจากนั้นเธอก็ครองแชมป์ในการแข่งขันมาโดยตลอด
ต้องยอมรับว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา น้องเมย์ ได้พัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งพัฒนาการเล่นให้เหนียวแน่นขึ้น ประกอบกับเป็นคนใจสู้ อยู่ในระเบียบวินัย ตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนัก จนทำให้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา น้องเมย์สร้างชื่อเสียงให้กับวงการลูกขนไก่ไทยอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นนักกีฬาสำคัญของทีมชาติไทยเคียงข้างนักแบดมินตันรุ่นพี่คนอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าน้องเมย์จะอายุเพียง 17 ปีในขณะนั้น แต่ความสามารถของเธอไม่ได้น้อยตามอายุเลย เพราะสาวน้อยมหัศจรรย์คนนี้ครองแชมเปี้ยนแบดมินตันเยาวชนโลกถึง 3 สมัยซ้อน ซึ่งถือเป็นคนแรกของโลกที่สร้างประวัติศาสตร์ครองแชมป์เยาวชนโลกได้ 3 สมัยซ้อน หลังจากนั้นมา ชื่อเสียงของเธอก็เป็นที่รู้จักในวงการแบดมินตันโลก จนในปี พ.ศ.2552 ทางสหพันธ์แบดมินตันโลกก็มอบรางวัลนักแบดมินตันดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีให้กับน้องเมย์ และทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เส้นทางบนถนนนักตบลูกขนไก่ของน้องเมย์ยังอีกยาวไกลแน่นอน
ส่วนในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 26 ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย น้องเมย์ก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง เมื่อรวมพลังกับทีมแบดมินตันหญิงไทยช่วยกันปราบคู่ต่อสู้จากอินโดนีเซีย คว้าเหรียญทองแบดมินตันประเภททีมหญิงมาครองได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นการคว้าเหรียญทองในประเภทนี้มาครองได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี สร้างความดีใจให้แฟน ๆ แบดมินตันชาวไทยเป็นอย่างมาก
และนอกจากฝีมือที่ยอดเยี่ยมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่แฟน ๆ กีฬาชาวไทยชื่นชมน้องเมย์เป็นอย่างมากก็คือ การมีสัมมาคารวะ เพราะทุกครั้งที่น้องเมย์ลงทำการแข่งขัน เธอจะไหว้ทุกคนรอบสนาม ทั้งผู้ชม กรรมการ คู่ต่อสู้ แม้กระทั่งพนักงานที่คอยเช็ดพื้นสนามแบดมินตัน กลายเป็นภาพความประทับใจที่ตรึงเข้าไปในจิตใจของผู้ที่พบเห็น และทำให้ทุกคนหลงรัก และเอ็นดูเด็กสาวคนนี้ไปโดยทันที
ขณะที่การแข่งขันโอลิมปิก เกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ น้องเมย์ก็สามารถทะลุได้ถึงรอบ 8 คนสุดท้าย ก่อนที่จะพ่ายให้กับหวัง ซิน มือ 2 ของโลกจากจีน ไปแบบประทับใจคนดู 1-2 เซต ซึ่งหลังจากจบเกมส์นี้ทำให้คนไทยหลายคนได้รู้จักน้องเมย์ รัชนกคนนี้มากขึ้น และติดตามผลงานของเธออยู่เรื่อยมา
เข้าสู่ปี 2013 น้องเมย์ก็ยังคงพัฒนาฝีมือในการเล่นแบดมินตันอย่างต่อเนื่อง โดยในการแข่งขันรายการออลอิงแลนด์ และ สวิส โอเพ่น ซึ่งถือว่าเป็นรายการใหญ่ น้องเมย์สามารถคว้าตำแหน่งรองแชมป์ได้ทั้งสองรายการ ซึ่งสร้างความเสียดายแก่แฟนแบดมินตันชาวไทยเป็นอย่างมาก แต่ทุกคนก็ยังคงให้กำลังใจน้องเมย์ต่อไป และเชื่อว่าสักวันหนึ่งน้องเมย์จะทำได้สำเร็จ
และน้องเมย์ก็ทำสำเร็จจริง ๆ ในการแข่งขัน อินเดีย ซูเปอร์ ซีรีส์ น้องเมย์ก็สามารถคว้าแชมป์ได้เป็นผลสำเร็จ นับเป็นการคว้าแชมป์ระดับซูเปอร์ซีรีส์ครั้งแรกอีกด้วย โดยเอาชนะ Pusarla Venkata Sindhu นักแบดมินตันจากอินเดียไปได้ และในช่วงนั้นเอง น้องเมย์ก็สามารถรั้งตำแหน่งนักแบดมินตัน มือ 3 ของโลก ซึ่งถือเป็นอันดับที่สูงที่สุดในชีวิตอีกด้วย
เมื่อได้ลิ้มรสความสำเร็จแรก ความสำเร็จต่อไปก็ตามมา ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน น้องเมย์ รัชนก ก็สามารถคว้าแชมป์แบดมินตันโลก ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน ได้เป็นผลสำเร็จ ด้วยการเอาชนะนักแบดมินตัน มือ 1 ของโลก หลี่ เสวี่ยรุ่ย ได้เป็นผลสำเร็จ 2-1 เซต และการคว้าแชมป์ครั้งนี้ ทำให้น้องเมย์ รัชนก เป็นแชมป์โลกรายการนี้ที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์
ความสำเร็จของน้องเมย์ รัชนก ในครั้งนี้ ก็กลายเป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นจริง ๆ
เส้นทางสู้กีฬาแบดมินตันของน้องเมย์ รัชนก เริ่มต้นมาตั้งแต่วัยเพียง 5 ขวบ และเมื่ออายุ 7 ขวบ น้องเมย์ ก็ได้ลงแข่งขันแบดมินตันไปครั้งแรก แม้จะแพ้บ้าง ชนะบ้าง แต่น้องเมย์ก็ฝึกฝนเรื่อยมา จนมาคว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรกในการแข่งขัน "อุดรธานีโอเพ่น" และจากนั้นเธอก็ครองแชมป์ในการแข่งขันมาโดยตลอด
ต้องยอมรับว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา น้องเมย์ ได้พัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งพัฒนาการเล่นให้เหนียวแน่นขึ้น ประกอบกับเป็นคนใจสู้ อยู่ในระเบียบวินัย ตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนัก จนทำให้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา น้องเมย์สร้างชื่อเสียงให้กับวงการลูกขนไก่ไทยอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นนักกีฬาสำคัญของทีมชาติไทยเคียงข้างนักแบดมินตันรุ่นพี่คนอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าน้องเมย์จะอายุเพียง 17 ปีในขณะนั้น แต่ความสามารถของเธอไม่ได้น้อยตามอายุเลย เพราะสาวน้อยมหัศจรรย์คนนี้ครองแชมเปี้ยนแบดมินตันเยาวชนโลกถึง 3 สมัยซ้อน ซึ่งถือเป็นคนแรกของโลกที่สร้างประวัติศาสตร์ครองแชมป์เยาวชนโลกได้ 3 สมัยซ้อน หลังจากนั้นมา ชื่อเสียงของเธอก็เป็นที่รู้จักในวงการแบดมินตันโลก จนในปี พ.ศ.2552 ทางสหพันธ์แบดมินตันโลกก็มอบรางวัลนักแบดมินตันดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีให้กับน้องเมย์ และทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เส้นทางบนถนนนักตบลูกขนไก่ของน้องเมย์ยังอีกยาวไกลแน่นอน
ส่วนในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 26 ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย น้องเมย์ก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง เมื่อรวมพลังกับทีมแบดมินตันหญิงไทยช่วยกันปราบคู่ต่อสู้จากอินโดนีเซีย คว้าเหรียญทองแบดมินตันประเภททีมหญิงมาครองได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นการคว้าเหรียญทองในประเภทนี้มาครองได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี สร้างความดีใจให้แฟน ๆ แบดมินตันชาวไทยเป็นอย่างมาก
และนอกจากฝีมือที่ยอดเยี่ยมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่แฟน ๆ กีฬาชาวไทยชื่นชมน้องเมย์เป็นอย่างมากก็คือ การมีสัมมาคารวะ เพราะทุกครั้งที่น้องเมย์ลงทำการแข่งขัน เธอจะไหว้ทุกคนรอบสนาม ทั้งผู้ชม กรรมการ คู่ต่อสู้ แม้กระทั่งพนักงานที่คอยเช็ดพื้นสนามแบดมินตัน กลายเป็นภาพความประทับใจที่ตรึงเข้าไปในจิตใจของผู้ที่พบเห็น และทำให้ทุกคนหลงรัก และเอ็นดูเด็กสาวคนนี้ไปโดยทันที
ขณะที่การแข่งขันโอลิมปิก เกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ น้องเมย์ก็สามารถทะลุได้ถึงรอบ 8 คนสุดท้าย ก่อนที่จะพ่ายให้กับหวัง ซิน มือ 2 ของโลกจากจีน ไปแบบประทับใจคนดู 1-2 เซต ซึ่งหลังจากจบเกมส์นี้ทำให้คนไทยหลายคนได้รู้จักน้องเมย์ รัชนกคนนี้มากขึ้น และติดตามผลงานของเธออยู่เรื่อยมา
เข้าสู่ปี 2013 น้องเมย์ก็ยังคงพัฒนาฝีมือในการเล่นแบดมินตันอย่างต่อเนื่อง โดยในการแข่งขันรายการออลอิงแลนด์ และ สวิส โอเพ่น ซึ่งถือว่าเป็นรายการใหญ่ น้องเมย์สามารถคว้าตำแหน่งรองแชมป์ได้ทั้งสองรายการ ซึ่งสร้างความเสียดายแก่แฟนแบดมินตันชาวไทยเป็นอย่างมาก แต่ทุกคนก็ยังคงให้กำลังใจน้องเมย์ต่อไป และเชื่อว่าสักวันหนึ่งน้องเมย์จะทำได้สำเร็จ
และน้องเมย์ก็ทำสำเร็จจริง ๆ ในการแข่งขัน อินเดีย ซูเปอร์ ซีรีส์ น้องเมย์ก็สามารถคว้าแชมป์ได้เป็นผลสำเร็จ นับเป็นการคว้าแชมป์ระดับซูเปอร์ซีรีส์ครั้งแรกอีกด้วย โดยเอาชนะ Pusarla Venkata Sindhu นักแบดมินตันจากอินเดียไปได้ และในช่วงนั้นเอง น้องเมย์ก็สามารถรั้งตำแหน่งนักแบดมินตัน มือ 3 ของโลก ซึ่งถือเป็นอันดับที่สูงที่สุดในชีวิตอีกด้วย
เมื่อได้ลิ้มรสความสำเร็จแรก ความสำเร็จต่อไปก็ตามมา ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน น้องเมย์ รัชนก ก็สามารถคว้าแชมป์แบดมินตันโลก ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน ได้เป็นผลสำเร็จ ด้วยการเอาชนะนักแบดมินตัน มือ 1 ของโลก หลี่ เสวี่ยรุ่ย ได้เป็นผลสำเร็จ 2-1 เซต และการคว้าแชมป์ครั้งนี้ ทำให้น้องเมย์ รัชนก เป็นแชมป์โลกรายการนี้ที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์
ความสำเร็จของน้องเมย์ รัชนก ในครั้งนี้ ก็กลายเป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นจริง ๆ