วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การเขียนประวัติส่วนตัว


องค์ประกอบหลักๆ ของ Portfolio ที่สมบูรณ์ 

1.หน้าปก
ควรออกแบบให้สะดุดุตา แบบเห็นปุ๊บแล้วคนหยิบขึ้นมาอ่านเลย ใส่รูปตัวเองลงไป present ตัวเองเต็มที่ เข้าใจง่าย สรุปเนื้อหา และ มีรายละเอียดครบถ้วนคือ ของใคร ชั้นอะไร เรียนที่ไหน เมื่อไร อย่างไร เหตุใด ฯลฯ (แต่ต้องเน้นส่วนที่เป็นตัวของเราที่สุด ทำออกมาให้เป็นตัวของตัวเอง)

2.ประวัติส่วนตัว
นำเสนอตัวเองเต็มที่ ประวัติทางด้านสถานศึกษา ถ้าจะให้ดี ขอแนะนำว่าให้ทำเป็น 2 ชุด คือ ส่วนที่เป็นภาษาไทย รวมไปถึงข้อมูลที่เป็น personal data และส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษนั่นเอง เพื่อแสดงความสามารถของตนให้แฟ้มดูน่าเชื่อถือมากขึ้นค่ะ

3.ประวัติทางการศึกษา
ให้เรียงลำดับจากการศึกษาที่น้อยสุด จนกระทั่งปัจจุบันและผลสรุปของผลการเรียนที่ได้ครั้งล่าสุดควรเน้นเป็นส่วนท้ายที่เห็นเด่นชัดที่สุด(อาจมีเอกสารรับรองผลการเรียนแนบมาด้วย)

4.รางวัลและผลงานที่ได้รับ
เขียนในลักษณะเรียงลำดับการได้รับ จากปี พ.ศ.(ในส่วนนี้ไม่ต้องใส่เกียรติบัตรลงไป เพราะอาจทำให้แฟ้มดูไม่มีจุดเด่น เพราะมันเด่นหมด ควรไปเน้นข้อต่อไปดีกว่า) เช่น
ด้านวิชาการ
ด้านพัฒนาชุมชนและสังคม
ด้านศิลปะและวัฒนธรรม
ด้านความเป็นผู้นำ
ด้านกีฬา
ด้านศีลธรรมและจริยธรรม

5.รางวัลและผลงานที่ประทับใจ
เป็นผลงานหรือรางวัลที่ได้รับ และเกิดความภาคภูมิแบบสุดๆ รางวัลแบบนี้แหละที่เป็นรางวัลแห่งชีวิตข้าพเจ้า (ควรใส่หลักฐานลงไปด้วยอาจมีรูปถ่ายประกอบจะดีมาก)

6.กิจกรรมต่างๆที่เคยทำในสมัยเรียนหรือทำงาน
เช่นเป็นประธานนักเรียน กิจกรรมในชมรม หรืออย่างอื่นใส่เพื่อให้รู้ว่าเรามีประสบการณ์จากการทำงาน หรือตรงส่วนนี้จะใช้เป็นงานพิเศษที่กำลังทำก็ได้ หากเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยจะทำให้ผลงานมีคุณค่ามากขึ้น คนหยิบขึ้นมาอ่านจะเห็นคุณค่าของเราตรงนี้ อาจมีเอกสารแสดงด้วยจะดีมาก)

7.ผลงานตัวอย่าง
คือ งานหรือรายงานที่คิดว่าภาคภูมิใจมากที่สุดจากการเรียนที่ผ่านมา เช่น โครงงานวิทยาศาสตร์ รายงาน การวิจัยต่างๆ อาจนำเสนอใน 5 รายวิชาหลัก เป็นต้น

8.ความสามารถพิเศษต่างๆ 
ควรโชว์ในความสามารถพิเศษที่คนทั่วไปมีอยู่เป็นส่วนน้อยที่สามารถทำได้ หรือเป็นความสามารถพิเศษที่สามารถสอดคล้องกับคณะ ที่เราต้องการศึกษาต่อ หรือถ้าไม่มี ก็เป็นความสามารถพิเศษทั่วๆ ไป เช่น ร้องเพลง เล่นดนตรี หรือ กีฬา ฯลฯในแต่ละหัวข้อถ้าหากมีการแสดงรูปถ่ายที่เกี่ยวข้องด้วยจะดีมากๆ 
 9. อาชีพของท่านทั้งในอดีตและปัจจุบัน
 เป็นการบอกแนวทางเติบโตของชีวิตการทำงานของท่าน ว่าท่านได้มีการวางแนวทางในการพัฒนาชีวิตสู่เป้าหมายอย่างไร โดยอธิบายและสามารถบอกขั้นตอนแนวคิดได้อย่างเป็นระบบ เพื่อให้เห็นชัดเจนของเส้นทางดำเนินชีวิตด้านการทำงานสู่อนาคต
10. มุมมองสำหรับการปกครองลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชา
ท่านมีวิธีการใดบ้าง ปฏิบัติอย่างไรบ้างในการดูแลลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชาให้ทำงานตามที่ท่านต้องการเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายของท่าน หรือท่านมีแนวคิดอย่างไรในการปกครองคนของท่านเพื่อให้เขามีระบบการทำงานที่ดี
12. ระบบการออมเงิน
ท่านบริหารเกี่ยวกับการเงินของท่านอย่างไร มุมมองในการบริหารการเงินของท่าน ท่านมีการแบ่งหรือออมอย่างไร ทำไมท่าถึงคิดแบบนั้น
13. การทำธุรกิจของท่านในชีวิตที่ผ่านมา
ท่านเคยทำธุรกิจหรือไม่ เพราะเหตุใด อธิบาย และสิ่งที่ทำในแต่ละธุรกิจหรือเข้าไปเกี่ยวข้องท่านได้อะไรจากสิ่งเหล่านั้น ในมุมมองใดบ้างอธิบายให้ชัดเจน

เทคนิคง่าย ๆ เขียนคำนำทำรายงาน


เทคนิคง่าย ๆ เขียนคำนำทำรายงาน




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


           เชื่อว่าเพื่อน ๆ ทุกคนคงคุ้นเคยกับการทำ "รายงาน" เป็นอย่างดี (อิอิ รู้หรอกน่า บางคนยังดองไว้เป็นสิบเล่มยังไม่ได้ทำเลยใช่ป่ะ) และเวลาทำรายงานทีไร เราก็มักจะเขียนเนื้อหา ทำสารบัญ พิมพ์หน้าปก ออกมาเสร็จเรียบร้อยสวยงามตามลำดับ แต่แม้ว่ารูปเล่มเหมือนจะเสร็จแล้วก็ยังส่งไม่ได้ เพราะติดปราการด่านสุดท้ายคือ เขียน "คำนำ" ไม่เป็น!!!

            เอาล่ะสิ..."คำนำ" ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับรายงานทุกเล่ม เพราะคนอ่านรายงานจะได้รู้ว่า รายงานเล่มนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร เขียนขึ้นมาเพื่ออะไร ภาพรวมของรายงานเราคืออะไร ถ้าไม่มี "คำนำ" อาจารย์ส่งรายงานให้กลับมาแก้แน่ ๆ ว้า...แล้ว "คำนำ" ในรายงานเขาเขียนกันอย่างไรล่ะ (จะไปลอกใครก็ไม่ได้อีก) แต่ก็ไม่ต้องห่วงไปจ้ะ เพราะวันนี้ กระปุกดอทคอม รวบรวมแนวทางการเขียน "คำนำ" แบบง่าย ๆ มาฝาก อ่านแล้วก็ลองนำไปปรับใช้กันดูนะจ๊ะ (อย่าลอกไปทั้งดุ้นล่ะเดี๋ยวอาจารย์จับได้นะเออ)

            สำหรับหลักการเขียนคำนำรายงานนั้น หลักง่าย ๆ เลยก็คือต้องเขียนให้ผู้อ่านสนใจอยากจะอ่านรายงานของเรา โดยเริ่มต้นอาจจะเขียนถึงที่มาที่ไปของรายงานฉบับนี้ จุดประสงค์และเหตุผลของการทำรายงานประเด็นนี้ หรือเรียกร้องถึงความสำคัญของประเด็นที่จะนำเสนอ บอกความเป็นมาคร่าว ๆ โดยอาจตั้งเป็นคำถามชวนให้ผู้อ่านคิด แล้วโยงเข้าสู่เรื่องที่เราอยากจะบอกก็ได้ ไม่ควรกว้าง หรือย้อนไปไกลมากจนเกินไป หรือวกวนจนจับประเด็นไม่ได้ 

            ในส่วนของภาษาที่ใช้เขียนรายงานนั้น หากเป็นรายงานที่มีเนื้อหาทางวิชาการ ก็คงต้องภาษาทางการหน่อย แต่หากเป็นรายงานทั่ว ๆ ไป ไม่วิชาการมากนัก ก็ควรใช้ภาษาที่เป็นกันเองกับผู้อ่านจะดีกว่า

            จากนั้น ในย่อหน้าถัดมา เราอาจจะกล่าวถึงรายงานของเราประกอบด้วยเนื้อหาอะไรบ้าง ดึงมาเฉพาะประเด็นที่น่าสนใจ เพื่อชักชวนให้ผู้อ่านติดตาม บอกขอบเขตคร่าว ๆ ที่ผู้อ่านจะได้รับจากรายงานฉบับนี้ หรือการทำวิจัยชิ้นนี้ หากเป็นรายงานส่งอาจารย์ ก็อาจปิดท้ายด้วยการกล่าวขอขอบคุณอาจารย์ ผู้ที่ร่วมทำรายงานฉบับนี้ให้เป็นรูปเล่มเสร็จสิ้น และพูดถึงว่า รายงานฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ หรือใครก็ตามที่น่าจะได้รับประโยชน์จากรายงานของเรานั่นเอง

             อ่อ...หลายคนอาจจะเคยเห็น หรือแม้กระทั่งเคยเขียนในรายงานด้วยซ้ำไปว่า "หากรายงานฉบับนี้มีข้อผิดพลาดประการใด คณะผู้จัดทำขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย" ซึ่งจริง ๆ อาจไม่จำเป็นต้องเขียนประโยคนี้ก็ได้นะจ๊ะ (เพราะอาจารย์หลายท่านมักเสนอแนะมาว่า รายงานของเราไม่ควรมีข้อบกพร่อง) แต่อาจจะเขียนว่า "หากมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้จัดทำขอรับไว้ด้วยความขอบพระคุณยิ่ง" ก็น่าจะดีกว่าค่ะ เมื่อเขียนจบแล้วก็ลงชื่อผู้จัดทำปิดท้ายเท่านี้ก็ได้ "คำนำ" แปะหน้าแรกของรายงานแล้วล่ะจ้า

 ว่าแล้วก็ขอสรุปอีกครั้งตามที่ราชบัณฑิตยสถาน ระบุไว้ว่า "คำนำที่ดีต้องมีลักษณะดังนี้"

             1. เขียนคำนำด้วยคำพังเพย หรือสุภาษิตที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่อง

             2. เขียนคำนำโดยการอธิบายความหมายของเรื่อง

             3. เขียนคำนำโดยขึ้นต้นด้วยคำกล่าวของบุคคลสำคัญ

             4. เขียนคำนำด้วยการเล่าเรื่อง

             5. เขียนคำนำด้วยคำถามหรือปัญหาที่สนใจ

             6. เขียนคำนำด้วยการอธิบายชื่อเรื่อง

             7. เขียนคำนำด้วยคำกล่าวถึงจุดประสงค์ของเรื่องที่เขียน

             8. เขียนคำนำด้วยการกล่าวถึงใจความสำคัญของเรื่องที่เขียน

             คำนำที่ดีต้องเป็นความคิดใหม่ ความคิดแปลก หรือความคิดสนุก ต้องมีลักษณะนำ หรือเชิญชวนให้ผู้อ่าน อ่านเรื่องของเราให้จบให้ได้ คำนำจึงเป็นส่วนสำคัญในการเรียกร้องความสนใจของผู้อ่านตั้งแต่เริ่มต้นอ่านเรื่อง และดึงดูดใจให้อ่านเรื่องไปตลอด

 สิ่งสำคัญที่ควรเลี่ยงในการเขียนคำนำ ได้แก่

             1. ไม่ควรเอาประวัติศาสตร์ หรือเรื่องพื้น ๆ ที่รู้จักกันดีอยู่แล้วมาเขียนเป็นคำนำ

             2. ไม่ควรอธิบายคำนำอย่างฟุ้งซ่าน จนไม่มีจุดหมายของเรื่อง

             3. ไม่ควรขึ้นคำนำด้วยคำบอกเล่าอันเกินควร

             4. ไม่ควรเขียนคำนำด้วยการออกตัว เช่น ออกตัวว่าไม่พร้อมหรือไม่เชี่ยวชาญเรื่องที่เขียน อาจทำให้ผู้อ่านไม่สนใจอ่านรายงานก็ได้

              5. ไม่ควรเขียนซ้ำกับส่วนสรุป หรือความลงท้าย

              6. ไม่ควรกล่าวถึงสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง


 ตัวอย่างคำนำรายงาน 1

             รายงาน/เอกสารคำสอน/สื่อ ฯลฯ ฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา...ชั้นมัธยมศึกษาปีที่...โดยมีจุดประสงค์ เพื่อการศึกษาความรู้ที่ได้จากเรื่อง... ทั้งนี้ ในรายงานนี้มีเนื้อหาประกอบด้วยความรู้เกี่ยวกับ... ตลอดจนการประยุกต์ใช้...

             ผู้จัดทำได้เลือกหัวข้อนี้ในการทำรายงาน เนื่องมาจากเป็นเรื่องที่น่าสนใจ รวมทั้งแสดงให้เห็นถึง... ผู้จัดทำต้องขอขอบคุณอาจารย์...ผู้ให้ความรู้ และแนวทางการศึกษา หวังว่ารายงานฉบับนี้จะให้ความรู้ และเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่าน หากมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้จัดทำขอรับไว้ด้วยความขอบพระคุณยิ่ง

                                                                                                                   ลงชื่อ....
                                                                                                                    ผู้จัดทำ

 ตัวอย่างคำนำรายงาน 2

             รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อประกอบการเรียนวิชา...  โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้จัดทำได้ฝึกการศึกษาค้นคว้า และนำสิ่งที่ได้ศึกษาค้นคว้ามาสร้างเป็นชิ้นงานเก็บไว้เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนของตนเองและครูต่อไป

             ทั้งนี้ เนื้อหาได้รวบรวมมาจากหนังสือแบบเรียน...และจากหนังสือคู่มือการเรียนอีกหลายเล่ม ขอขอบพระคุณอาจารย์...อย่างสูงที่กรุณาตรวจ ให้คำแนะนำเพื่อแก้ไข ให้ข้อเสนอแนะตลอดการทำงาน ผู้จัดทำหวังว่ารายงานฉบับนี้คงมีประโยชน์ต่อผู้ที่นำไปใช้ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามความคาดหวัง

                                                                                                                    ลงชื่อ....
                                                                                                                     ผู้จัดทำ


             อย่างไรก็ตาม ตัวอย่างข้างต้นคือตัวอย่างของการเขียนคำนำรายงานส่งอาจารย์นะจ๊ะ ซึ่งหากใครจะเขียนคำนำของเอกสาร หรือหนังสือประเภทอื่น ๆ ก็สามารถนำเทคนิคดังกล่าวไปปรับใช้ในเรื่องของการเกริ่นนำ ภาษา และรูปแบบการเขียน เช่น การเปิดเรื่องด้วยบทกลอน บทร้อยกรอง สุภาษิตคำพังเพย คำคม ตั้งคำถามชวนคิดโยงเข้าเรื่อง หรือจะโน้มน้าวชักจูงให้ผู้อ่านคล้อยตาม เพื่อให้คำนำของเราเป็นคำนำที่เร้าความสนใจ และดึงดูดให้ผู้อ่านสนใจผลงานของเรานั่นเองค่ะ

การเขียนบรรณานุกรม


ความหมายของบรรณานุกรม
        บรรณานุกรม  คือ  รายชื่อหนังสือเอกสาร  สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ รวมทั้งโสตทัศนวัสดุ  และสื่ออีเล็กทรอนิกส์ ที่นำมาเป็นหลักฐานอ้างอิงในการเขียนรายงาน  โดยเรียงตามลำดับอักษรไว้ท้ายเรื่อง

จุดมุ่งหมายในการเขียนบรรณานุกรม
        1.  ทำให้รายงานนั้นเป็นรายงานที่มีเหตุผล  มีสาระน่าเชื่อถือ
        2.  เป็นการเคารพสิทธิและความคิดเห็นของผู้อื่นจึงนำมาอ้างไว้
        3.  เป็นแนวทางสำคัญสำหรับผู้สนใจต้องการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม โดยศึกษาได้จากบรรณานุกรมนั้น ๆ
        4.  สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงที่นำมาอ้างได้

วิธีเขียนบรรณานุกรม
        การเขียนบรรณานุกรมจากหนังสือ  ผู้เรียนสามารถนำข้อมูลจากหน้าปกใน และด้านหลังของหน้าปกใน ของหนังสือเล่มที่บันทึกข้อมูลมาเขียนบรรณานุกรม  การเขียนบรรณานุกรมจากวารสาร นำข้อมูลจากหน้าปก ของวารสารฉบับที่บันทึกข้อมูล มาเขียนบรรณานุกรม  และการเขียนบรรณานุกรมจากหนังสือพิมพ์ นำข้อมูลจากหน้าแรกของหนังสือพิมพ์มาเขียนบรรณานุกรม  และการเขียนบรรณานุกรมจากสื่ออีเล็กทรอนิกส์ นำข้อมูลจากหน้าแรกของเว็บเพจมาเขียนบรรณานุกรม    ดังนี้
        1.  เขียนไว้ในส่วนท้ายของรายงาน
        2.  เขียนเรียงลำดับอักษรชื่อผู้แต่ง ในกรณีที่มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ให้เขียนบรรณานุกรมภาษาไทยก่อน
        3.  บรรทัดแรกของบรรณานุกรมชิดด้านซ้ายที่เว้นจากขอบกระดาษเข้ามา  1.5  นิ้ว  ถ้ายังไม่จบ เมื่อขึ้นบรรทัดใหม่โดยย่อหน้าเข้ามาประมาณ  7  ช่วงตัวอักษรของบรรทัดแรก  ให้เขียนตรงกับช่วงตัวอักษรที่  8
        4.  รายละเอียดในโครงสร้างรูปแบบบรรณานุกรมหนังสือ   มีดังนี้
1. โครงสร้างรูปแบบบรรณานุกรมหนังสือ

    1.1  การอ้างถึงชื่อผู้แต่ง           1.1.1  ผู้แต่งคนเดียว

           1.1.2  ผู้แต่ง  2  คน ให้ใส่คำว่า  “และ”  เชื่อมระหว่างคนที่  1  กับคนที่  2

           1.1.3  ผู้แต่ง  3  คน  ให้ใส่เครื่องหมายจุลภาคคั่นระหว่างคนที่  1  กับคนที่  2  และใส่คำว่า  “และ”  เชื่อมระหว่างคนที่  2  กับคนที่  3

           1.1.4  ผู้แต่งตั้งแต่  3  คนขึ้นไป  ลงเฉพาะชื่อแรก  และตามด้วยคำว่า  และคนอื่น ๆ

           1.1.5  หนังสือที่ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง  ให้ใช้ชื่อเรื่องเป็นรายการแรกแทนชื่อผู้แต่ง

           1.1.6  ผู้แต่งใช้นามแฝง  ให้ใช้นามแฝงได้เลย

           1.1.7  หนังสือแปล  ให้ใส่ชื่อ  นามสกุลของผู้แต่ง ก่อนผู้แปล

           1.1.8  ผู้แต่งมีบรรดาศักดิ์  ให้ใส่ชื่อ  นามสกุล  ตามด้วยบรรดาศักดิ์

    1.2  รูปแบบของบรรณานุกรมหนังสือ 
           รูปแบบของบรรณานุกรม  มี  2  แบบ
           1.2.1  การอ้างอิงแยกจากเนื้อหาอยู่ท้ายของรายงาน  
                     1)  การอ้างอิงเนื้อหาบางบท  หรือบางตอน  ในหนังสือเล่มเดียวจบ    ให้ใส่ชื่อบท หรือตอน  ใช้คำว่า “ใน” ตามด้วยชื่อหนังสือ  และระบุหน้า  เมืองที่พิมพ์ ผู้รับผิดชอบในการพิมพ์


                     2)  การอ้างอิงเนื้อหาบางบท  หรือบางตอน  ของหนังสือบางเล่มที่มีหลายเล่มจบ ใช้คำว่า “ใน” ตามด้วยชื่อหนังสือ  ระบุเล่ม  และหน้าตามด้วยเลขหน้าที่อ้างอิง เมืองที่พิมพ์ ผู้รับผิดชอบในการพิมพ์

                     3)  การอ้างอิงตลอดทุกเล่มที่มีหลายเล่มจบ  ให้ระบุจำนวนเล่ม ตามด้วย เมืองที่พิมพ์ ผู้รับผิดชอบในการพิมพ์

                     4)  การอ้างอิงเพียงเล่มใดเล่มหนึ่ง  ให้ระบุเล่มที่อ้างอิงตามด้วย เมืองที่พิมพ์ ผู้รับผิดชอบในการพิมพ์

           1.2.2  การอ้างอิงแทรกในเนื้อหา                     1)  เมื่อต้องการจะแทรกในเนื้อหาสามารถแทรกวงเล็บพร้อมกับอ้างอิงได้ทันที  เมื่อจบข้อความ                          1.1)  รายการอ้างอิง  ประกอบด้วย  ชื่อ  นามสกุลผู้แต่ง ตามด้วยเครื่องหมายจุลภาค ปีที่พิมพ์ ตามด้วยเครื่องหมายจุลภาค  หน้า/เลขหน้าที่อ้างถึง

                          1.2)  หากไม่มีชื่อผู้แต่ง ให้ใช้ชื่อหน่วยงานแต่ง ตามด้วยเครื่องหมายจุลภาค ปีที่พิมพ์ ตามด้วยเครื่องหมายจุลภาค  หน้า/เลขหน้าที่อ้างถึง

                          1.3)  หากไม่ระบุปีที่พิมพ์  และเลขหน้า  ให้ใช้ตัวอักษรย่อ  “ม.ป.ป.”  ย่อมาจากคำว่า  ไม่ปรากฏเลขหน้า  และระบุคำว่า  ไม่มีเลขหน้าลงไปได้เลย

                     2)  ถ้าระบุชื่อผู้แต่งลงในเนื้อหาแล้วอ้างต่อทันทีในวงเล็บ  ไม่จำเป็นต้องระบุ ชื่อผู้แต่งซ้ำอีก

                     ยกเว้นผู้แต่งเป็นชาวต่างชาติ

                     3)  การอ้างถึงเอกสารที่ไม่สามารถค้นหาต้นฉบับจริงได้  ให้อ้างจากเล่มที่พบ  ใช้คำว่า  “อ้างถึงใน”  หากเป็นบทวิจารณ์  ใช้คำว่า  “วิจารณ์ใน”

                     4)  การอ้างถึงเฉพาะบท  ใช้คำว่า  “บทที่”

                     5)  การอ้างถึงตาราง  ในเนื้อหา  ใช้คำว่า  “ดูตารางที่”  การอ้างถึงภาพในเนื้อหา  ใช้คำว่า  “ดูภาพที่”

2. โครงสร้างและรูปแบบบรรณานุกรมวารสาร

    2.1  การเขียนบรรณานุกรมจากบทความในวารสาร  มีปีที่  และฉบับที่

    2.2  บทความในวารสาร  ที่ไม่มีปีที่  ออกต่อเนื่องทั้งปี

3. โครงสร้างและรูปแบบบรรณานุกรมหนังสือพิมพ์

    3.1  การเขียนบรรณานุกรมบทความในหนังสือพิมพ์

    3.2   การเขียนบรรณานุกรมข่าวจากหนังสือพิมพ์  ให้เขียนหัวข่าว

    3.3  การเขียนบรรณานุกรมจากคอลัมน์จากหนังสือพิมพ์

4. รูปแบบบรรณานุกรมเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ระบบออนไลน์  (Online) หรืออินเทอร์เน็ต
    4.1  เว็บเพจ มีผู้เขียน  หรือมีหน่วยงานรับผิดชอบ

    4.2  เว็บเพจไม่ปรากฏผู้เขียน  และปีที่จัดทำ ใส่  ม.ป.ป.  (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์)

วิธีสร้างปริซึมโดยใช้โปรแกรม GSP


เรียนรู้เรขาคณิต สองมิติและสามมิติ ด้วย GSP

  การสอนเรขาคณิต  สองมิติและสามมิติ   ส่วนมากแล้วครูที่สอนเกี่ยวกับเรื่องนี้จะให้เด็กนักเรียนมองเห็นภาพกันจริงๆ แล้ว  ครูหลายคนจึง  ให้เด็กพับกล้องกระดาษ   เพื่อดูว่า  สามมิติเป็นอย่างไร  แต่รูปแบบการสอนของขวัญ  จะนำเรื่องเทคโนโลยี  เข้ามาช่วย  ซึ่งก็คือการสร้างรูปทรงเรขาคณิต  สองมิติ  และสามมิติ   โดย  ใช้โปรแกรม  GSP    การเรียนการสอนที่แปลกใหม่แตกต่างจากเดิมช่วยให้เด็กนักเรียนเกิดเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์   ซึ่งช่วยส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนด้วย  ไปชมผลงานกันเลยค่ะ   สื่อตัวนี้จะสอนให้เด็กสร้างรูปทรงสามมิติ   ได้ด้วยตนเองสร้างความสนุกสนาน  พร้อมทั้งช่วยส่งเสริม  ความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนด้วยค่ะ








วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ประวัติของ คูณสมคิด ลวางกูร

25 พ.ย. 2554

แม่สอนลูก

                                                                แม่สอนลูก

                                   วันหนึ่งขณะทานอาหารร่วมกันของครอบครัว...
                                   ลูกวัย 8 ขวบ ถามคุณแม่ว่า...

                                   "คุณแม่ครับ Sex คืออะไรครับ..."

                                    ทุกคนบนโต๊ะอาหารตกใจมาก...คุณแม่รีบบอกลูกว่า..

                                   "เรื่องนี่ไม่ควรนำมาพูดในโต๊ะอาหารนะลูก...
                                   มันไม่เหมาะสม...เดี๋ยวแม่จะคุยกับลูกสองต่อสอง หลังทานข้าวเสร็จ..."

                                   ลูกแสดงอาการงุนงง...สงสัย...และไม่เข้าใจ...
                                   พอทานข้าวเสร็จ...คุณแม่รีบวิ่งเข้าห้องนอน หายไป 15 นาที...
                                   แล้ววิ่งกลับออกมาหาลูกชาย...
                                   พร้อมกระดาษขนาด A4 จำนวน 2 แผ่น...
                                   มีข้อความอธิบายเรื่องเพศอย่างละเอียด...  
                                   เพราะไม่กล้าพูดคุยกับลูกโดยตรง...
                                   ลูกชายมองกระดาษด้วยความงุนงง...
                                   สงสัย เหมือนเดิม และพูดกับคุณแม่ว่า...

                                   "คุณแม่ครับ...แบบฟอร์มที่คุณครูให้มา...
                                   มีช่องให้กรอกเรื่อง Sex นิดเดียวครับ...
                                   ผมยังคิดไม่ออก...
                                   ว่าจะเอาข้อความที่คุณแม่เขียนให้ใส่ยังไงถึงจะพอ..."

                                   ทีหลังเวลาถูกถามเกี่ยวกับเรื่อง Sex หาข้อมูลให้แน่ใจนะครับว่า...
                                   เรื่อง Sex ที่ลูกอยากรู้...กับเรื่อง Sex ที่เราอยากเล่าเนี่ย...
                                   มันเรื่องเดียวกัน...

                                   ส่วนมากผู้ใหญ่คิดลึก...คิดมาก...คิดไกล...เพราะเรียน สปช.มาเยอะ...
                                   พอเด็กถามเรื่อง Sex ก็กลัวว่าเด็กจะคิดเหมือนเรา...
                                   รีบบอกว่า มันสกปรก ลามก หยาบคาย ต่ำทราม...

                                   เด็กส่วนใหญ่ยิ่งไม่เข้าใจ...
                                   เพราะภายในจิตใจของเด็กนั้นบริสุทธิ์และเป็นธรรมชาติ...





                                                                                                เรื่องจาก...
                                                                                        เพศศึกษา...ฮาสุดขีด...

แค่คิด

แค่คิด

                                   สามีภรรยากำลังนั่งทานอาหารอยู่ที่บ้าน...
                                   ขณะรับประทานอาหาร สามีครุ่นคิดและเหม่อลอย...
                                   ภรรยาหันมาทำหน้าดุ...และพูดเสียเข้มว่า...

                                   "นี่คุณ...กำลังทานข้าวนะ คิดอะไรอยู่...?"

                                   สามีได้สติ...รีบเก็บอาการให้เป็นปกติ...
                                   แล้วใช้ปฏิภาณไหวพริบ เพื่อเอาตัวรอด ตอบภรรยาไปว่า...

                                   "ก็คิดเหมือนที่คุณคิดนั่นแหละ..."
 
                                   เท่านั้นเอง เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น...
                                   ภรรยาลุกขึ้นยืน...โกรธจนหูแดง เอามือชี้หน้า...

                                   "อ๋อ...ไอ้แก่...มึงคิดจะมีชู้หรือนี่...? มึงตาย..."


                                                                       
                                                                                                        เรื่องจาก....
                                                                                                   เพศศึกษา...ฮาสุดขีด...      

คอร์สเรียนเขียน

เปิดแล้ว...
คอร์สสร้างธุรกิจ 100 ล้าน...จากการเขียนหนังสือ...
รุ่นที่ 15...วันที่ 21-22 มกราคม 2555
Work shop วันที่ 28 มกราคม 2555





กำหนดการอบรม...
“ การสร้างธุรกิจ 100 ล้าน  จากการเขียนหนังสือ 
โดย คุณสมคิด ลวางกูร
วันแรก
            เวลา
รายละเอียด
          08.30 น.
      09.00  12.00 น.
  ลงทะเบียน
เส้นทางสู่นักเขียนมืออาชีพ...
- สุดยอดวิชา...ที่ฮาร์วาร์ด...ไม่มีสอน...
เขียนหนังสือเล่มเดียว 40 ล้าน...เขียนยังไง...?
- เทคนิคการเลือกอ่านหนังสือ...และสต๊อกข้อมูล...
เทคนิค...การต่อยอด...เปลี่ยนข้อมูลให้เป็นงานเขียน...
- เทคนิคการเขียน...ให้คนอ่านประทับใจ...วางไม่ลง...
เทคนิคการตั้งชื่อเรื่องให้โดนใจ...
- เทคนิคการสร้างเสน่ห์...และเพิ่มคุณค่าให้งานเขียน...
- เทคนิคการสร้างความเชื่อมั่นในงานเขียนครั้งแรก...
- เทคนิคการสร้างเอกลักษณ์...และการตั้งฉายา...
- เทคนิคการตั้งชื่อหนังสือ...ให้โดนใจและขายดี...
- เทคนิคการเพิ่มคุณค่า..งานเขียน...                      

12.00  13.00 น.
** พักรับประทานอาหารกลางวัน **
13.00  14.00 น.







14.00 – 17.30 น.



- เขียนหนังสือยังไงให้ติด Best seller ตั้งแต่เล่มแรก...
- หัวใจสำคัญของนักเขียน...Best seller… 
เทคนิคการใช้พรแสวง...โดยไม่ต้องพึ่งพรสวรรค์..
- คุณสมบัติของนักเขียนที่จะดัง...โดดเด่น...และร่ำรวย...
- เทคนิคการปั้นนักคิด...ให้เป็นนักเขียน...(เงินล้าน...)...
- คุณ...ก็เป็นที่ 1...ได้... (Best seller No 1…)...
- ปัญหาและอุปสรรค์...ของนักเขียน...

การนำเสนอผลงานสู่สำนักพิมพ์

- ปัจจัยในการนำเสนอ
- ประเภทหนังสือเล่ม

การพิจารณาตลาดและลูกค้า

- กลุ่มเป้าหมาย
- การตั้งชื่อเรื่อง

 

วันที่สอง
เวลา
รายละเอียด
09.00  12.00 น.
- เทคนิคการออกแบบปกหนังสือ...ให้ติด Best seller  
  และยอดขายถล่มทลาย
เทคนิคการวิจัยตลาดหนังสือแสนง่าย...แบบนักธุรกิจ
- จิตวิทยาในการใช้สี...ให้โดนใจลูกค้า
เทคนิค...การจัด Art  ให้น่ารักและมีเสน่ห์
- เทคนิคการเขียนข้อความโฆษณา
- เทคนิคการเลือกแบบตัวอักษร...เพื่อกระชากใจผู้อ่าน
- กลยุทธ์การยึดพื้นที่เกรด A…ในร้านหนังสือ
- กลยุทธ์การต่อรอง...ค่าเรื่อง...ค่าลิขสิทธิ์...และการจ่าย 
  ค่าตอบแทน
- เทคนิคการเลือกสำนักพิมพ์ที่จะผลักดันให้ยอดขาย
  ถล่มทลาย
- เทคนิคการทำหนังสือให้ดัง...ดี...และรวย

12.00  13.00 น.
** พักรับประทานอาหารกลางวัน **
13.00  17.-30 น.



เทคนิคการให้สัมภาษณ์สื่อและรายการโทรทัศน์
  ชนิดโป้งเดียว...ดังสนั่นเมือง
ถาม-ตอบ
-การสร้างเอกลักษณ์  และการสร้างแบรนด์
-การคิด วิเคราะห์ ทางธุรกิจ...ให้โดดเด่น...แตกต่างและดีกว่า...

 

 
































 Note :
             ·               เรียนทั้งหมด วัน...
-               ทฤษฎี...2...วัน..
-               Work Shop… 1 ครั้ง วันที่ 28 มกราคม 2555
-               สถานที่เรียน...โรงแรมสิริสาธร...ชั้น 2 ห้องโบตานิกา
                                                                                 ( ศาลาแดง ซอย1  ) 
-                                                     
                 *รายละเอียดการชำระเงิน...*
-                โอนบัญชี : ธ.กสิกรไทย สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน
             นายฉันฉันน์   ลวางกูรพสิษฐ์
      726-225-7252
       จำนวน 12,500บ. / 1 ท่าน...( 2 break 1 lunch )
       ชำระเงินแล้วรบกวนส่งหลักฐานการโอนเงิน
                                                                                          ฝ่ายประสานงาน
                                                              คุณพัชรี งามนิตยาหงส์ (ออย )
                                                                   โทร. 086-376-0199, 081-638-8004
              Email : oil1324@gmail.com

หนังสือใหม่...



หนังสือใหม่...วางจำหน่ายที่ 7/11 ที่มีบุ๊คสมาย์เท่านั้น...
กทม.และปริมณฑล...วางจำหน่ายกลางเดือนธันวาคม...




                                  คำเตือน...


            อยากประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต...
                   =>  อย่าบ่น...เรื่องที่คุณไม่มี...
                   =>  อย่ารอ...เรื่องที่คุณไม่พร้อม...
            แต่จงใช้...เรื่องที่คุณมีทั้งหมด...
                   =>  ให้เกิดประโยชน์สูงสุด...แก่ชีวิต...

            ในโลกนี้...ไม่มีใครที่...
                   =>  เกิดมา...แล้วมี..แล้วพร้อม 100%...
            ผมเกิดมา...
                  =>  เป็นเด็กวัด...กำพร้า...
                         ยากจนขนาดต้องแย่งหมากิน...
            แต่...ผมวิ่งไล่ล่าความสำเร็จ...
                  =>  โดยไม่รอความพร้อม...
                  =>  โดยไม่รอ...โอกาส...
            ผมวิ่งเข้าใส่ความไม่พร้อม...
                  =>  แล้วสร้างโอกาสด้วยตัวเอง...
            จนประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่...ในชีวิต...

            อยากประสบความสำเร็จ...
                  =>  จงอย่าพูดคำว่า...ไม่พร้อม...ไม่มีโอกาส...
                  =>  ต้องเปลี่ยนปัญหา...และอุปสรรค...
                         ให้เป็นโอกาสให้ได้...
            แล้วคุณจะประสบควาสำเร็จที่ยิ่งใหญ่...





ผมเตือนคุณแล้ว...
สมคิด  ลวางกูร...
วลีกวนตา...วาจากวนตีน...

19 พ.ย. 2554

ถอดรหัส...ความสุข...

   ถอดรหัส...ความสุข...

  . ทางด่วน...สู่ความสำเร็จ...
              คุณสมคิดครับ...
                            ถ้าชีวิตเรา...ยังไม่เจอหายนะ...
                            แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ...ในขณะนี้...
                            จะต้องทำยังไง...เราถึงจะมีแรงขับ...มากพอ...
                            ที่จะทำให้ตัวเอง...ประสบความสำเร็จได้...
                            ตอนนี้ผมโคตรเบื่อชีวิตของตัวเอง...
                            มันไม่มีทิศทาง...มันไม่รู้จะไปทางไหน...
                            ขืนปล่อยทิ้งไว้อย่างนี้...
                            อีกไม่นาน...ชีวิตคงหายนะแน่ครับ...
                            ขอคำชี้แนะด้วยครับ...

                                                                                                        โรจนินทร์...


             คุณโรจนินทร์ครับ...
                      สูตรแห่งความสำเร็จของชีวิต...มันต้องประกอบด้วย...
                             1. เป้าหมายชีวิตที่แน่นอน...
                                        => ว่าเราต้องการความสำเร็จระดับไหน…
                             2. หาวิธีการที่จะพาเราไปสู่ความสำเร็จ...
                                        => เมื่อตั้งเป้าหมาย แล้วดูว่า...
                                                      มีวิธีไหนบ้าง...ที่จะทำให้เราเดินไปสู่เป้าหมายได้...
                             3. ลงมือทำ...
                                        => เมื่อได้วิธีการแล้ว…ลงมือทำทันที…ทำเดี๋ยวนี้…
                             4. สร้างวินัยที่เข้มข้นให้ตัวเอง...
                                     โดยการให้สัญญากับตัวเองว่า...
                                        => ไม่สำเร็จ…กูไม่เลิก...
                                              แล้วคุณก็จะประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่...
                                              มีชีวิตรอด...ร่ำรวย...ประสบความสำเร็จ...มีความสุข...
                                              คือ...สุดยอดปรารถนา...ของทุกชีวิต...

           ขั้นตอนแห่งความสำเร็จ...
                                         => มันต้องมี Model หรือขั้นตอนตามที่ผมบอก...
                              เริ่มต้นทีละขั้น...ทีละขั้นจนกว่าจะครบทุกขั้นตอน...
                              แล้วคุณก็จะประสบความสำเร็จ...อย่างที่ต้องการ...

                     ในขณะที่เรากำลังลงมือทำตามวิธีการที่วางไว้...
                     สิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัย...ในการพาเราไปสู่ความสำเร็จ...คือ...
                             => ความสามารถ…
                     คนที่ความสามารถมากกว่า...เก่งกว่าคนอื่น...
                             => จะประสบความสำเร็จได้เร็วกว่า…
                             => และยิ่งใหญ่กว่า…

                     ความสามารถ…หรือความเก่งของคน…เริ่มต้นมาจาก…
                             => ความฉลาด…
                     ความฉลาด...คือ...
                             => การเรียนรู้สิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็ว…

                     ความฉลาดที่จะทำให้คนประสบความสำเร็จได้อย่างยิ่งใหญ่...

                           ประกอบด้วย...ความฉลาด 3 อย่าง...คือ...
                                1. ความฉลาดทางด้าน...IQ…
                                2. ความฉลาดทางด้าน...EQ…
                                3. ความฉลาดทางด้าน...RQ…


   · รวย...แบบครบเครื่อง...
                   ปัจจัยที่จะทำให้เรา...
                            มีชีวิตรอด...ร่ำรวย...ประสบความสำเร็จ...และมีความสุข...
                   ประกอบด้วย...
                             IQ…EQ…และ RQ…

                   IQ…คือ...Intelligence Quotient…คือ...
                            ความฉลาดทางด้าน...เชาว์ปัญญา...
                            ใช้ในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่เป็นประโยชน์ต่อ...
                             การดำเนินชีวิต...ได้รวดเร็ว...

                                   คนที่มี IQ สูง...
                                         => จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ...ได้รวดเร็วกว่าคนทั่วไป...


                   EQ...คือ...Emotionall Quotient...คือ...
                            ความฉลาดทางด้าน...การควบคุมอารมณ์...
                            ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม...ไม่มากหรือน้อยเกินไป...
                            จนทำให้ชีวิตเดือดร้อน...

                                  คนที่มี EQ...สูง...
                                        => จะมีคุณภาพชีวิตดี…ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข…

                   RQ…คือ…Resilience Quotient…คือ…
                             ความสามารถ…ในการปรับตัว…ให้เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม…
                             เมื่อเกิดปัญหาและอุปสรรคต่างๆในชีวิต…
                             สามารถแก้ไขสถานการณ์…ให้กลับสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ว…
                             และสามารถ…ปรับเปลี่ยนทัศนคติตัวเอง…
                             ให้สอดคล้องกับสถานการณ์รอบตัวได้อย่างกลมกลืน…

                                  คนที่มี…RQ สูง...
                                        => จะร่ำรวย…และประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต...
                                              อย่างมั่นคง…ถาวร…

               คนที่จะมีชีวิตรอด…ร่ำรวย…ประสบความสำเร็จ…และมีชีวิตที่มีความสุข…
                       => ต้องปรับระดับ…IQ…EQ…RQ…ให้สูงเท่าๆกัน…


               ถ้า IQ …EQ…RQ…สูงไม่เท่ากัน...จะเกิดอะไรขึ้น..?
               IQ สูง…EQ ต่ำ…
                        => ฉลาดมาก…แต่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้…
                                  - ประสบความสำเร็จด้านการเรียน…
                                  - แต่มีปัญหาด้านสังคม…อยู่ร่วมกับคนอื่นลำบาก…
                                         => สุดท้ายเรียนเก่ง…หน้าที่การงานดี…
                                               แต่ชีวิตไม่มีความสุข…


               EQ สูง…แต่ IQ ต่ำ…
                         => สุขภาพจิตดี…แต่ความรู้น้อย…
                                  - ประสบความสำเร็จทางด้านสภาพจิตใจ…
                                  - แต่ล้มเหลวทางด้านเศรษฐกิจ…
                                         => สุดท้าย…มีชีวิตอยู่อย่างสบายใจ…
                                               แต่จน…ขัดสนปัจจัยสี่ที่สำคัญต่อการดำเนินชีวิต…

               IQ สูง…EQ สูง…แต่ RQ ต่ำ…
                        => เรียนเก่ง…สุขภาพจิตดี…แต่ชีวิตขึ้นๆลงๆ…
                                  - เดี๋ยวประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่…
                                  - ไม่นาน…ล้มเหลวอย่างเหลือเชื่อ…
                                  - ไม่นานประสบความสำเร็จอีก…แล้วก็ล้มเหลวอีก…
                                           => ชีวิตไม่มั่นคง…หวือหวาไปตามกระแสโลก

               IQ สูง...EQ สูง...RQ สูง...
                        => เรียนเก่ง…สุขภาพจิตดี…
                              การปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี…
                                  - จะทำให้ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต...
                                  - มีความมั่นคง...แน่นอน...
                                           => ชีวิตดีพร้อม…มีความสุข…

       อยากมีชีวิตที่...ร่ำรวย...มั่นคง...แน่นอน...
       ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่...และมีความสุขทั้งชีวิต...
       เราจะต้องพัฒนา...IQ...EQ...RQ...
               => ให้สูงที่สุด…
               => ให้สูงเท่าๆกัน…
               => พัฒนาทั้ง 3 ด้าน…ไปพร้อมๆกัน…


   · ความเก่ง...สร้างได้...
                IQ...EQ...RQ...สร้างได้...ไม่ยาก...
                       การสร้าง...IQ...
                               => ศึกษา…เรียนรู้…เรื่องราวต่างๆ…
                                     ที่มันเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิต...
                                     ให้มากที่สุด...ให้เร็วที่สุด...เท่าที่จะทำได้...
                               => IQ เรา…อาจจะต่ำกว่าคนอื่นเล็กน้อย…
                                     การเรียนรู้...ความเก่ง...ความฉลาดของเรา...
                                     อาจจะน้อยกว่าคนอื่นเล็กน้อย...
                                          => แต่ถ้าเรา…เรียนรู้ให้เยอะกว่า…ให้เร็วกว่า…
                                                 ในไม่ช้า...เราจะเก่งกว่า...ฉลาดกว่า...
                                                 คนที่ IQ สูงกว่าเราเป็น 10 เท่า...
                               => การสร้าง IQ…และการพัฒนาความเก่งความฉลาด…
                                         => ต้องทำให้เยอะ…ทำให้เร็ว…ทำให้มากกว่าคนอื่น…
                                                 => แล้วเราก็จะเป็นคนที่เก่งและฉลาด…
                                                       จนหาตัวจับได้ยาก…

                                     คนที่จะประสบความสำเร็จ…
                                          => ต้องเป็นคนเก่ง…และฉลาด…

                       การสร้าง...EQ...
                               => ต้องมีสติตลอดเวลา…และต้องควบคุมสติให้ได้…
                                     ในทุกสถานการณ์ที่เข้ามากระทบกับชีวิตเรา...
                                          => คนส่วนใหญ่…จะมีอารมณ์หวั่นไหวไปตามสถานการณ์…
                                                     => เวลาดีใจ…ดีใจมาก…จนหลงระเริง…
                                                     => เวลาเสียใจ…เสียใจมาก…จนควบคุมตัวเองไม่ได้…
                                                คนกลุ่มนี้จะมีปัญหาสุขภาพจิต…
                                                     => สภาพจิตใจ…ขึ้นๆลงๆ…เดี๋ยวทุกข์เดี๋ยวสุข…
                                                           ไม่พอใจสภาพที่ตัวเองเป็น...กลายเป็นคนซึมเศร้า...
                                                           และลงท้ายด้วยการฆ่าตัวตาย...


          วิธีแก้ปัญหา...
                 => ต้องควบคุมจิตใจ…ให้มั่นคงในทุกสถานการณ์…
                           => เมื่อมีเรื่องมากระทบ…ไม่ดีใจเกินไป…ไม่เสียใจเกินไป…
                           => ค่อยๆคิด…แก้ปัญหาในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น…
                 => แต่ถ้ายังไม่สามารถควบคุมจิตใจ…
                       ไม่สามารถควบคุมสติให้นิ่งได้ด้วยตนเอง…
                            => แนะนำว่า…ควรเข้าฝึกสติ…และการควบคุมจิตใจ…
                                  ด้วยการเข้าปฏิบัติธรรม…วิปัสนากรรมฐาน…
                 => การปฎิบัติธรรมจะทำให้เราเกิดความชำนาญ…
                       ในการควบคุมจิต…ควบคุมสติ…
                       แล้วเราจะสามารถควบคุมอารมณ์ไม่ให้หวั่นไหวตามกระแสได้...

                      การสร้าง RQ...
                              => ต้องปรับตัวเอง…ให้มีความยืดหยุ่นสูง…
                                    ไม่เอาตัวเองไปติดยึดอยู่กับสิ่งหนึ่งสิ่งใด...ความคิดหนึ่งความคิดใด...
                                    โดยเปลี่ยนแปลงไม่ได้...

                              => เมื่อมีความยืดหยุ่นสูงแล้ว…
                                          => เมื่อมีสิ่งหนึ่งสิ่งใด…มากระทบกระแทก…
                                                ต้องรีบปรับตัว…ยืดหยุ่นไปตามแรงที่มากระทบ…
                                          => แล้วปรับตัว…ให้คืนตัวกลับมาเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว…

                              => RQ…คือ…พลัง…
                                          => พลังสุขภาพจิต…ที่จะทำให้เราสามารถ…
                                                เอาชนะอุปสรรค…และจัดการกับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นได้…
                                                อย่างเหมาะสม…และสร้างสรรค์…
                                          => เมื่อเราแก้ปัญหาเยอะๆ…เอาชนะอุปสรรคได้มากๆ…
                                                จะเกิดเป็นองค์ความรู้…และประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่…
                                                นำไปสู่…ความเข้มแข็งทางจิตใจ…
                                                และความเชื่อมั่นในตัวเองที่ยิ่งใหญ่…


  · Key Success ...ของชีวิต...

            ความเข้มแข็งทางจิตใจ…และความเชื่อมั่นในตัวเองที่ยิ่งใหญ่…
            จะทำให้เกิดพลัง 3 ตัว…ซึ่งเป็น Key Success ของชีวิต…คือ…
                 => พลังอึด…พลังฮึด…พลังสู้...

            พลังอึด...หมายถึง...
                  => เมื่อมองสถานการณ์ที่โหดร้าย…ทารุน…และกดดัน…
                        สามารถดูแลจิตใจให้ทนรับกับมันได้...
                        สามารถควบคุมอารมณ์และจัดการกับความทุกข์ได้...
                             - อึด...คือ...ทนได้...ในทุกสถานการณ์...


            พลังฮึด...หมายถึง...
                  => สามารถสร้างพลัง...และกำลังใจให้ตัวเองและผู้อื่น…
                        ในการคิดหาหนทางเอาชนะสถานการณ์โหดร้าย...ทารุณ...และกดดัน...ได้
                             - ฮึด...คือ...ไม่ยอมแพ้...

            พลังสู้...หมายถึง...
                  => คิดเอาชนะต่อปัญหา และอุปสรรคตลอดเวลา...
                        ไม่ว่าปัญหาและอุปสรรคนั้น...มันจะยากและยิ่งใหญ่ขนาดไหน...
                  => เชื่อมั่นว่า…ตัวเองเก่ง…และสามารถเอาชนะทุกวิกฤตในโลกนี้ได้…
                  => ลงมือลุยในทุกวิกฤต…อย่างมุ่งมั่น…ทุ่มเท...เต็มสูบ…
                        เป้าหมายคือ…ชัยชนะและความสำเร็จ…


   · คัมภีร์...เศรษฐีใหม่...
                อึด...ฮึด...สู้...
                      คือพลังสำคัญ...ที่จะทำให้ชีวิตคนประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่...
                      ถ้าขาดพลัง 3 ตัวนี้...อย่าได้หวังว่า...
                      ชีวิตจะได้สัมผัส...หรือแม้แต่เข้าใกล้ความสำเร็จ...


                RQ...คือพลังสำคัญ...
                        => ที่จะทำให้เรา…สามารถเอาชนะต่อปัญหาและอุปสรรคได้…
                      การจะทำให้ RQ สูงขึ้น...ง่ายมาก...
                            => เพียงแค่…เราต้องฝึกพัฒนา RQ ทุกวัน…
                                  ฝึกตลอดเวลา...จนติดเป็นนิสัย...
                                  แล้วเราจะมี RQ สูง...สูงมากขึ้นทุกวัน...

          หัวข้อที่เราต้องพัฒนาคือ...
                1.ความสัมพันธ์ที่ดี...กับทุกคน...
                      => ต้องทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงหน้าประทับใจให้ได้…

                2.มีอารมณ์ขัน...
                      => ทำให้ตัวเองและคนรอบข้างหัวเราะได้…
                               ทั้งวัน...และทุกวัน...

                3.เรียนรู้...สิ่งใหม่ๆ...ที่เราไม่รู้...ตลอดเวลา...
                      => เป็นการพัฒนาความสามารถ…ให้เก่งขึ้นทุกวัน…
                      => เมื่อเราเก่งมาก...
                                => ก็จะสามารถเอาชนะปัญหาและอุปสรรค...
                                      ได้มาก...
                      => ชีวิตก็ประสบความสำเร็จเร็วมาก...และยิ่งใหญ่มาก...

                4.คิดบวก...มองโลกแง่ดี...
                      => ไม่มีอะไรในโลกนี้…ที่มนุษย์ทำไม่ได้…
                      => ไม่มีปัญหาและอุปสรรคใดในโลกนี้…ที่มนุษย์เอาชนะไม่ได้…
                               => เราจะสร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ให้ชีวิต…
                                          => จนโลกตะลึง…

                5.ดูแลตัวเองดี…
                      => ทำให้ตัวเองมีสภาพจิตใจดี…สุขภาพร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ…

                6.ยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้...
                      => เพราะทุกอย่างในโลก…มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา…
                             => เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น...ต้องเข้าใจ...และยอมรับมันได้...

                7.มีเป้าหมายชีวิตชัดเจน...
                      => ตั้งเป้าหมายชีวิตว่า…ต้องการประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่แค่ไหน…
                      => แล้วย่อยเป็นเป้าหมายเล็กๆ…จนถึงเป้าหมายรายวัน…ในทุกวัน…
                      => ต้องมีเป้าหมายว่า… วันนี้…เราจะทำอะไรให้สำเร็จ…

                8.ลงมือทำ...
                      => ทำเป้าหมายแต่ละวัน…ให้เสร็จทุกวัน…

                9.ชื่นชมตัวเองทุกครั้งที่ทำงานสำเร็จ...
                       => เมื่อทำทุกเป้าหมาย…หรือทุกงานสำเร็จ...
                             ต้องให้รางวัล…และชื่นชมตัวเอง...
                             ว่าเราเป็นคนเก่ง…ที่ทำงานยากๆได้สำเร็จ… เป็นคนที่หาได้ยากในโลก…
                             จะทำให้เราเกิดพลังและกำลังใจ…ในการไล่ล่าเป้าหมายครั้งต่อไป…

                10.มีวิชั่น...มองการไกล...
                        => คิดไปข้างหน้าตลอดเวลา…ว่า...
                                   เราจะทำอะไร…ในอีก 3 ปี…5 ปีข้างหน้า…
                        => วางแผนไปข้างหน้าเสมอ…
                              คุณต้องพัฒนาเรื่องพวกนี้ทุกวัน...จนติดเป็นนิสัย...
                              แล้วภายใน 3 ปี...5 ปีข้างหน้า...
                        => คุณจะเป็นคนที่มี RQ…สูงมาก…
                              และสูงกว่าคนทั่วไป…


             เมื่อ…IQ สูง...EQ สูง...RQ สูง... 
                        => คุณก็จะเป็นคนที่มีศักยภาพสูง...
                        => ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่...
                        => ร่ำรวย...มั่นคง...ยืนยง...ถาวร...
                        => ชีวิตมีแต่ความสุข...

                    ได้ทุกอย่างครบ...สมปรารถนา...
                    ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้... 


  · ชีวิตคุณ...คือเดี๋ยวนี้...
             เห็นไหมครับว่า...
                          ชีวิตที่จะประสบความสำเร็จ...อย่างมีความสุข...
                          มันมั่วไม่ได้...มันหวังแต่จะฟลุ๊ก...จะให้พรหมลิขิตไม่ได้...

                           อยากประสบความสำเร็จ...ร่ำรวย...มั่นคง...มีความสุข...
                           ต้องใช้ชีวิต...อย่างมีแบบแผน...

             แบบแผนที่จะทำให้ชีวิตมีความสุข...
                           ก็แค่...พัฒนา IQ...EQ...RQ...
                                  => ให้สูงที่สุด…ให้เร็วที่สุด…และพัฒนาไปพร้อมๆกัน…

             ในเมื่อความสุข...ความสำเร็จของชีวิต...
                           => มันง่ายแค่นี้เอง…
                                     => แล้วคุณยังจะรออะไรอยู่…

             พัฒนา IQ…EQ…และRQ…ของคุณเดี๋ยวนี้…
                        แล้วชีวิตคุณ…จะมีความสุข…จนคนทั้งโลกต้องอิจฉา…

                                                                                                    สมคิด ลวางกูร…
                                                                                                    วลีกวนตา…วาจากวนตีน…
                                                                                                    samakidaa@hotmail.com